โรคข้อเข่าเสื่อม เป็นภาวะที่สามารถส่งผลกระทบอย่างมากต่อการใช้ชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะเมื่อมีอาการปวด เจ็บ หรือเข่าผิดรูป ซึ่งอาจรุนแรงถึงขั้นเดินลำบาก เคลื่อนไหวไม่สะดวก หรือไม่สามารถทำกิจวัตรต่าง ๆ ได้อย่างคล่องตัวเหมือนที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีแนวทางในการดูแล และรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมหลากหลายวิธี โดยหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมคือ “การจัดกระดูก และการทำกายภาพบำบัด” ซึ่งเป็นแนวทางที่ไม่ต้องพึ่งการผ่าตัด แต่เน้นการฟื้นฟูสมดุลของร่างกายอย่างเป็นธรรมชาติ ช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด และส่งเสริมการเคลื่อนไหวที่ดีขึ้น
บทความนี้ Align Clinic จะพาคุณมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรคข้อเข่าเสื่อมในทุกแง่มุม ตั้งแต่สาเหตุ อาการที่ควรเฝ้าระวัง ไปจนถึงแนวทางการดูแล และรักษาที่เหมาะสม ทั้งในกลุ่มผู้สูงอายุ และคนวัยทำงานที่อาจมีพฤติกรรมเสี่ยง เพื่อให้คุณกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมั่นใจ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอีกครั้ง ถ้าพร้อมแล้ว ไปเริ่มกันเลย !
สาเหตุที่ข้อเข่าเสื่อม เกิดจากอะไร ?
รู้หรือไม่ว่า โรคข้อเข่าเสื่อมไม่ได้เกิดจากปัจจัยเดียวเท่านั้น แต่เกิดจากหลายสาเหตุ ที่ส่งผลต่อกันอย่างต่อเนื่อง เช่น
- อายุที่เพิ่มขึ้น
เมื่ออายุมากขึ้น กระดูกอ่อนที่ข้อเข่าจะเริ่มสึกกร่อนตามธรรมชาติ ส่งผลให้เกิดการเสียดสีกันระหว่างกระดูก ทำให้เกิดการอักเสบ และปวดบริเวณข้อเข่า
- อุบัติเหตุ
การเกิดอุบัติเหตุที่กระทบต่อข้อเข่า เช่น หกล้ม หรือบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา อาจทำให้ข้อเข่าผิดตำแหน่ง หรือเกิดการบาดเจ็บภายในข้อ ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง ก็อาจกลายเป็นข้อเข่าเสื่อมในระยะยาว
- น้ำหนักตัวเกินเกณฑ์
น้ำหนักตัวที่มากเกินไป จะเพิ่มแรงกดทับลงบนข้อเข่าตลอดเวลา โดยเฉพาะเวลายืน เดิน หรือขึ้น – ลงบันได ทำให้ข้อเข่าเสื่อมเร็วขึ้นกว่าปกติ
- การออกกำลังกาย
การใช้งานข้อเข่าอย่างหนักเกินไป เช่น วิ่งระยะไกลโดยไม่มีการวอร์มอัป และเล่นกีฬาหนัก ๆ โดยไม่มีเทคนิคที่ถูกต้อง หรือการยกน้ำหนักบ่อย ๆ ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้ข้อเข่าเสื่อมได้
- พันธุกรรม และพฤติกรรมการใช้ชีวิต
บางคนอาจมีพันธุกรรมที่ส่งผลให้ข้อเข่าเสื่อมเร็วกว่าคนทั่วไป หรือมีพฤติกรรมที่เพิ่มความเสี่ยง เช่น การนั่งพับเพียบ นั่งขัดสมาธิ หรือนั่งยอง ๆ เป็นเวลานาน
ทั้งนี้ หากคุณกำลังมองหาวิธีบรรเทาอาการข้อเข่าเสื่อมอย่างปลอดภัย Align Clinic ยินดีให้คำปรึกษา พร้อมแนะนำแนวทางการรักษาที่เหมาะสมสำหรับคุณ
เช็กลิสต์ 7 อาการข้อเข่าเสื่อม สัญญาณอันตรายที่ต้องระวัง
อาการของโรคข้อเข่าเสื่อม มักจะค่อย ๆ แสดงออก และรุนแรงขึ้นตามเวลา ซึ่งหากคุณมีอาการเหล่านี้ ควรรีบปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนที่จะสายเกินไป
- เสียวหัวเข่า
มีอาการรู้สึกเสียวแปล๊บที่ข้อเข่าเวลาขยับ หรือเคลื่อนไหวอย่างฉับพลัน โดยเฉพาะเวลาขึ้น – ลงบันได
- ปวดหัวเข่า
อาการปวดตื้อ ๆ หรือปวดแปลบ โดยเฉพาะช่วงเช้า หลังตื่นนอน หรือหลังใช้งานเข่าหนัก ๆ ซึ่งอาการมักจะทวีความรุนแรงมากขึ้น เมื่อข้อเข่าเริ่มเสื่อมระดับกลางถึงมาก
- เข่าอ่อนแรง และไม่มั่นคง
หากรู้สึกเหมือนไม่มีแรง ไม่สามารถยืน หรือเดินได้อย่างมั่นคง รวมถึงอาจรู้สึกเหมือนขาจะทรุดได้ง่าย เป็นสัญญาณของกล้ามเนื้อรอบเข่าที่อ่อนแรงลง
- มีเสียงดังในข้อ
มีเสียง “ก๊อบแก๊บ” หรือ “ลั่น” เวลาเคลื่อนไหวเข่า ซึ่งอาจเกิดจากกระดูกเสียดสีกัน หรือมีการเสื่อมของกระดูกอ่อน ที่ไม่สามารถรองรับการเคลื่อนไหวได้ดีเหมือนเดิม
- เข่าบวม
มีอาการข้อเข่าบวมแดง หรือรู้สึกร้อน ซึ่งเป็นสัญญาณของการอักเสบภายในข้อเข่า ซึ่งหากบ่อยครั้ง อาจแสดงถึงภาวะข้อเข่าเสื่อมในระยะลุกลามก็เป็นได้
- ข้อฝืด
ขยับเข่าลำบาก โดยเฉพาะตอนตื่นนอน หรืออยู่ในท่าเดิมนาน ๆ เช่น นั่งทำงานนาน ๆ แล้วลุกขึ้นจะรู้สึกข้อฝืด และตึงจนเคลื่อนไหวไม่สะดวก
วิธีการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม ด้วยการจัดกระดูก ที่ Align Clinic แนะนำ
Align Clinic เราเชื่อว่าการฟื้นฟูข้อเข่าเสื่อม ไม่จำเป็นต้องเริ่มจากการผ่าตัดเสมอไป แต่สามารถใช้แนวทางการรักษาแบบองค์รวม เพื่อช่วยบรรเทาอาการ รวมถึงปรับสมดุลร่างกายได้อย่างปลอดภัยและยั่งยืน โดยวิธีที่เราแนะนำ มีดังนี้
- ใช้เครื่องมือพยุงข้อเข่า
การใช้เฝือกพยุงเข่าหรือสนับเข่า เป็นวิธีพื้นฐานที่ช่วยลดแรงกระแทก และลดการเสียดสีระหว่างกระดูกบริเวณข้อเข่า ช่วยพยุงข้อให้อยู่ในแนวที่เหมาะสม เพิ่มความมั่นคงในการเดิน หรือเคลื่อนไหว จึงเหมาะมากสำหรับผู้ที่มีอาการปวด หรือเข่าอ่อนแรง
- การจัดกระดูก
หนึ่งในแนวทางการรักษาหลักของ Align Clinic คือ การจัดกระดูก โดยนักจัดกระดูกผู้เชี่ยวชาญ จะตรวจหาความผิดปกติของแนวกระดูก และข้อต่อ โดยเฉพาะบริเวณสะโพก หลัง และเข่า ส่งผลต่อการรับน้ำหนัก และการเคลื่อนไหว จากนั้นจะปรับให้ข้อกลับมาอยู่ในแนวที่สมดุล ช่วยลดแรงกดบริเวณข้อเข่า ลดอาการเจ็บปวด และฟื้นฟูการทำงานของข้อเข่าได้อย่างเป็นธรรมชาติ
- การยืดเหยียดกล้ามเนื้อ
กล้ามเนื้อที่ตึง หรือเกร็งมักเป็นสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้ข้อเข่าอยู่ในท่าทางที่ผิด อาจเร่งให้เกิดการเสื่อมของข้อเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งเทคนิคการยืดเหยียดเฉพาะจุด จะช่วยลดความตึงของกล้ามเนื้อรอบข้อเข่า คลายแรงดึงรั้ง และช่วยให้การเคลื่อนไหวดีขึ้น
- การออกกำลังกาย
Align Clinic แนะนำให้ผู้ป่วยออกกำลังกายเบา ๆ อย่างสม่ำเสมอ โดยเลือกกิจกรรมที่ไม่เน้นแรงกระแทก เช่น ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน และการฝึกลุกนั่งอย่างถูกวิธี เพื่อช่วยเสริมความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อรอบข้อเข่า และส่งผลดีต่อเสถียรภาพของข้อต่อในระยะยาว
- ทำกายภาพบำบัด
การทำกายภาพบำบัด ภายใต้การดูแลของนักกายภาพผู้เชี่ยวชาญ จะช่วยฟื้นฟูความยืดหยุ่นของข้อต่อ ลดการอักเสบ ลดอาการปวด และกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในบริเวณข้อเข่า ทำให้ผู้ป่วยเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น และลดความเสี่ยงต่อการทรุดของอาการ
- ควบคุมน้ำหนักให้เหมาะสม
น้ำหนักตัวที่เกินเกณฑ์ เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ข้อเข่าต้องรับภาระมากเกินไป ส่งผลให้เกิดการเสื่อมเร็วขึ้น การลดน้ำหนักจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยลดแรงกดบนข้อเข่า เพิ่มประสิทธิภาพในการฟื้นฟู และชะลอความเสื่อมของข้อในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม อย่าปล่อยให้โรคข้อเข่าเสื่อม กลายเป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิต หากคุณเริ่มมีอาการ หรืออยู่ในกลุ่มเสี่ยง แนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดกระดูก เพื่อประเมินแนวทางการดูแลอย่างเหมาะสม หรือจองคิวตรวจ และประเมินสุขภาพข้อเข่ากับทีมแพทย์ของ Align Clinic เพราะเรามีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปี ทั้งในประเทศไทย และออสเตรเลีย หากคุณสนใจ สามารถติดต่อเราได้ที่
Tel. 02-121-4854 หรือ 093-595-6262
Line: @alignclinic