ในยุคที่คนส่วนใหญ่ต้องทำงานผ่านคอมพิวเตอร์ สมาร์ตโฟน หรือใช้เวลาบนโต๊ะทำงานเป็นเวลานาน ทำให้หลายคนเลือกนั่งด้วยท่านั่งที่สบายที่สุด เช่น การนั่งห่อตัว นั่งเอนตัวไปข้างหน้า นั่งตัวไถลไปกับเก้าอี้ นั่งขัดสมาธิบนเก้าอี้ รวมถึงนั่งชันขา ทำให้เกิดอาการปวดเมื่อย หรือเกิดอาการหลังค่อมได้ในที่สุด
ซึ่งเมื่อเกิดอาการหลังค่อมแล้ว จะทำให้กล้ามเนื้อหลังอ่อนล้า จากการทำงานหนัก เพราะแผ่นหลังถูกยืดออกในท่าก้มเป็นเวลานาน อีกทั้งโครงสร้างของหมอนรองกระดูกสันหลัง ก็จะอ่อนแอลงไปด้วย ส่งผลให้เกิดอาการหมอนรองกระดูกสันหลัง เคลื่อนทับเส้นประสาทในที่สุด
สำหรับผู้ที่กำลังสงสัยว่าอาการปวดที่เผชิญอยู่ เข้าข่ายภาวะหลังค่อมหรือไม่ ในบทความนี้ Align Clinic จะพาทุกคนมาทำความเข้าใจกับอาการหลังค่อม พร้อมกับแนวทางการสังเกตอาการง่าย ๆ ด้วยตัวเอง และแนะนำคลินิกจัดกระดูก ที่พร้อมเข้ามาช่วยบรรเทาอาการปวด ให้หายได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะมีอะไรที่ควรรู้บ้าง เราไปดูกัน
เรื่องต้องรู้ ภาวะหลังค่อม คืออะไร
ภาวะหลังค่อม (Kyphosis) คือ ภาวะผิดปกติของโครงสร้างร่างกายในช่วงบนโค้งมาด้านหน้า นับตั้งแต่กระดูกสันหลังส่วนคอ ไปจนถึงส่วนอกและไหล่ ทำให้ร่างกายทำงานไม่สมดุลกัน และกลุ่มกล้ามเนื้อฝั่งหนึ่งเกิดการหดตัวสั้น และอีกฝั่งหนึ่งยืดยาวออก
ซึ่งหากมีอาการหลังค่อมไม่มาก อาจไม่ได้ก่อปัญหาสุขภาพร้ายแรง แต่มักจะรู้สึกลุกยืนลำบาก หรือปวดเมื่อยตามบริเวณคอ ไหล่ สะบัก และหลังอยู่บ่อย ๆ ส่วนในกรณีที่รุนแรง อาจทำให้รู้สึกเจ็บ และหายใจลำบากได้ โดยสาเหตุของอาการหลังค่อมก็มีอยู่ด้วยกัน 4 ปัจจัย ได้แก่
- ความผิดปกติของกระดูกสันหลัง
อาการหลังค่อม อาจจะเกิดขึ้นได้ทางพันธุกรรม ซึ่งเกิดจากปริมาณเลือดไปเลี้ยงกระดูกสันหลังไม่เพียงพอ ทำให้กระดูกสันหลังเจริญเติบโตได้ไม่เต็มที่ และเส้นเอ็นรอบบริเวณกระดูกสันหลัง มีความหนากว่าปกติ ส่งผลให้รูปร่างของกระดูกสันหลังผิดปกติ ซึ่งพบได้ตั้งแต่วัยเด็ก และมักจะมีอาการกระดูกสันหลังคดร่วมด้วย
- ความเสื่อมตามอายุ
อายุ ก็เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการหลังค่อม เพราะเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น หรือหมดประจำเดือนเป็นระยะเวลานาน มวลกระดูกจะลดลงตามเรื่อย ๆ ทำให้กระดูกสันหลังค่อย ๆ ยุบตัวลงในที่สุด
- อุบัติเหตุต่าง ๆ
อุบัติเหตุร้ายแรง ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดอาการหลังค่อม ไม่ว่าจะเป็น อุบัติเหตุลื่นล้ม การตกจากที่สูง หรืออุบัติเหตุทางรถยนต์ ที่มีการกระแทกอย่างรุนแรง เพราะอุบัติเหตุต่าง ๆ ที่กล่าวมานี้ ทำให้กระดูกหักยุบตัวมาข้างหน้าได้
- พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม
สำหรับผู้ที่แบกของ หรือกระเป๋าหนักบ่อย ๆ และนั่งผิดท่าเป็นระยะเวลานาน ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนล้าจากการทำงานหนัก และโครงสร้างของหมอนรองกระดูกอ่อนแอลง ส่งผลให้กล้ามเนื้อทำงานไม่สมดุลกัน ซึ่งปัญหานี้มักพบได้ในวัยทำงาน ที่มีปัญหาออฟฟิศซินโดรมร่วมด้วย
แนวทางการสังเกต อาการหลังค่อมด้วยตัวเอง รู้ไว้ก่อนสายเกินแก้
ภาวะหลังค่อม เป็นอาการที่สามารถสังเกต และพบได้มากในปัจจุบัน โดยผู้ที่มีภาวะหลังค่อม มักมีท่าทางในลักษณะคอยื่น (forward head), ไหล่ห่องุ้ม (round shoulders), สะบักด้านในเปิดนูนออก (scapular winging) และหลังค่อม (thoracic kyphosis) ซึ่งสามารถสังเกตอาการได้ง่าย ๆ ที่บ้าน ดังนี้
- ยืนหน้ากระจก
เทคนิคแรกที่สามารถทำได้ในทันที คือการสังเกตร่างกายของตัวเอง ผ่านหน้ากระจก จากนั้นพิจารณาว่าไหล่ และหลังส่วนบน โค้งไปข้างหน้ามากน้อยแค่ไหน และระดับหัวไหล่ทั้งสองข้าง มีความสูงต่ำเท่ากันหรือไม่ หากพบความต่าง อาจเป็นสัญญาณของหลังค่อม ไหล่ห่อ และคอยื่นได้
- ยืนตัวตรงหน้ากำแพง
หากลองสังเกตหน้ากระจกแล้ว ยังไม่แน่ใจว่าเข้าข่ายภาวะหลังค่อมหรือไม่ ลองยืนตัวตรงชิดกับกำแพง และไม่พยายามบีบหัวไหล่เข้าหากัน หากด้านหลังของศีรษะ และด้านหลังของหัวไหล่ไม่สัมผัสกับผนัง ถือเป็นสัญญาณที่บอกว่าคุณกำลังมีภาวะหลังค่อม
- อาการปวดตึงกล้ามเนื้อ
อีกหนึ่งแนวทาง ที่ช่วยสังเกตอาการหลังค่อมในขั้นเบื้องต้น คือ อาการปวดตึงบริเวณกล้ามเนื้อ เช่น คอ บ่า ไหล่ สะบัก ร่วมกับอาการร้าว หรือชาในบริเวณที่ปวด
ทั้งนี้ หากลองสังเกตอาการในขั้นเบื้องต้นแล้ว พบว่ามีแนวโน้มเข้าข่ายภาวะหลังค่อม Align Clinic คลินิกจัดกระดูกไคโรแพรคติก และกายภาพบำบัด ที่มากไปด้วยประสบการณ์ พร้อมช่วยปรับสมดุลร่างกายด้วยการจัดกระดูกสันหลัง และกายภาพบำบัด เพื่อให้คุณใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจอีกครั้ง หากสนใจติดต่อได้ที่ Line: @alignclinic
อาการหลังค่อม มีวิธีการรักษาอย่างไรให้เห็นผล
สำหรับใครที่ลองสังเกตตัวเองในขั้นเบื้องต้นแล้ว และกังวลว่าอาการหลังค่อมสามารถรักษาได้ไหม เพราะหากปล่อยไว้อาจทำให้บุคลิกภาพดูไม่ดีเท่ากับคนอื่น ๆ ก็ไม่ต้องกังวลกันไป เนื่องจาก ในปัจจุบันได้มีศาสตร์การรักษาอาการหลังค่อมหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น
- การออกกำลังกาย
อาการหลังค่อม สามารถรักษาได้ด้วยการออกกำลังกายยืดกล้ามเนื้อเป็นประจำ เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อบริเวณคอ บ่า ไหล่ และสะบัก ทั้งยังช่วยคงความสมดุลของกล้ามเนื้อ และข้อต่อ ส่งผลให้ลดความปวดบริเวณต่าง ๆ ได้ โดยท่าที่ออกกำลังกาย ที่เหมาะสมกับการบริหารลดอาการหลังค่อม ได้แก่
- Chest Open: หรือท่ายืดอก เป็นท่าออกกำลังกาย ที่ช่วยยืดกล้ามเนื้อหน้าอก และลดอาการตึงไหล่
- Cat and Cow: เป็นท่าออกกำลังกายยืดกล้ามเนื้อ ที่ช่วยปรับสมดุลของกระดูกสันหลัง และเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับหลัง ทำให้กระดูกสันหลัง และกล้ามเนื้อบริเวณรอบ ๆ สามารถขยับได้ดีมากขึ้น
- การปรับท่าทาง
การปรับท่าทางในระหว่างนั่ง ช่วยให้ร่างกายไม่กลับมาปวดซ้ำ เช่น นั่งหลังตรงแนบไปกับพนักพิง ไม่โน้มตัวไปข้างหน้า เพื่อก้มมองจอคอมพิวเตอร์ รวมถึงเปลี่ยนอิริยาบถทุก ๆ 30 นาที – 1 ชั่วโมง เพื่อลดความตึงของกล้ามเนื้อ
- ใช้อุปกรณ์เสริม
นอกเหนือจากการออกกำลังกายปรับท่าทางแล้ว ก็ยังมีอุปกรณ์ค้ำกระดูก ที่ช่วยป้องกันไม่ให้หลังโค้งไปมากกว่าเดิม และแก้ภาวะหลังค่อมในผู้ที่กระดูกสันหลังโค้งมากกว่า 65 องศา โดยแพทย์จะทำการพิจารณาถึงความจำเป็นในแต่ละบุคคล
- ผ่าตัด
การผ่าตัดช่วยลดความโค้งของกระดูกสันหลังได้ โดยแพทย์จะทำการพิจารณาก่อนว่า ผู้ป่วยอยู่ในภาวะสันหลังค่อม หรือเป็นโรคกระดูกสันหลังโก่งหรือไม่ โดยกระดูกสันหลังต้องโค้งมากกว่า 75 องศา หรือยังมีอาการปวดหลัง แม้เข้ารับการรักษาด้วยวิธีที่ไม่ใช่การผ่าตัดมาแล้ว
- กายภาพบำบัด
การทำกายภาพบำบัด เป็นการแก้หลังค่อม โดยไม่ต้องเข้ารับการผ่าตัด ซึ่งนักกายภาพบำบัดจะเข้ามาช่วยฝึกฝนท่าบริหารกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ และใช้อุปกรณ์ทางศาสตร์กายภาพบำบัด เพื่อลดอาการปวด และความตึงของกล้ามเนื้อ
- จัดกระดูก
อีกหนึ่งศาสตร์ที่ช่วยบรรเทาอาการหลังค่อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ คือ การจัดกระดูกสันหลัง โดยผู้เชี่ยวชาญ หรือนักไคโรแพรคติกที่มีประสบการณ์ในการจัดกระดูกโดยเฉพาะ เพื่อลดความตึงตัวของกล้ามเนื้อ รวมถึงปรับปรุงท่าทางในการนั่ง ยืน และเดินให้ดียิ่งขึ้น
ทั้งนี้ หากต้องการรักษาด้วยวิธีการจัดกระดูก แนะนำให้เลือกคลินิกจัดกระดูกที่มีคุณภาพ โดดเด่นด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย และตรงตามมาตรฐานสากล รวมถึงตรวจเช็กรายชื่อแพทย์ผ่านเว็บไซต์แพทย์สภา เพื่อให้มั่นใจว่าการรักษาในแต่ละครั้งเชื่อถือได้ และอยู่ในความดูแลของผู้เชี่ยวชาญ
Align Clinic คลินิกจัดกระดูก ที่ช่วยแก้ปัญหาหลังค่อมได้ตรงจุด
หากคุณมีอาการปวดบริเวณคอ ไหล่ สะบัก และแผ่นหลัง รวมถึงมีอาการหลังค่อม ขอแนะนำ Align Clinic คลินิกจัดกระดูกที่มีความเชี่ยวชาญในการดูแลรักษาสุขภาพของกระดูก และกล้ามเนื้อ ผ่านศาสตร์การจัดกระดูก (Chiropractic) และการทำกายภาพบำบัด เพื่อรักษาอาการ บำบัด ฟื้นฟูร่างกายอย่างถูกต้อง และคืนคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับทุกคน
โดยจุดเด่นที่ทำให้ Align Clinic โดดเด่นเหนือคลินิกจัดกระดูกที่อื่น คือ เราพร้อมจัดโปรแกรมการรักษาที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย ตั้งแต่การตรวจประเมินสุขภาพ การรักษา และการฟื้นฟูร่างกาย โดยคนไข้ทุกรายจะได้รักษากับทีมแพทย์ และนักกายภาพบำบัดที่มีความรู้ และประสบการณ์ทั้งในไทย และออสเตรเลีย
ทั้งยังรักษาด้วยอุปกรณ์ และเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย ได้มาตรฐานระดับสากล ทำให้การรักษาในแต่ละครั้ง มอบประสิทธิภาพสูงสุดแก่ผู้ป่วย หากสนใจ สามารถติดต่อเราได้ที่
Line : @alignclinic
Tel. 02-121-4854 / 093-595-6262